ความยากของการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือการต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างสถานการณ์ โควิด ในปัจจุบัน ที่ Mind Set ความเป็นผู้นำเป็นสิ่งสำคัญมาก
ผู้ประกอบการทุกคนจะต้องไม่มัวแต่ตื่นตระหนก เครียด หรือโกรธ แต่ต้องลุกยืนขึ้นบุกไปข้างหน้าให้ได้ ต้องระดมสมองขอพลังจากลูกน้องในทีมงาน นำออกมาใช้คิดแผนการดี ๆ ให้ต่อสู้จนอยู่รอดได้ โดยแนวทางในการบริหารจัดการธุรกิจให้มั่นคงอยู่ได้ในช่วง โควิด เช่นนี้นั้น สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้
1.Suspend รอคอยให้เป็น
บริษัทที่ได้รับผลกระทบ ควรชะลอการใช้จ่าย อย่าเพิ่งใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมกับการลงทุน หรือหากตัดสินใจลงทุนไปก็จะทำให้มีความเสี่ยงล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ เราจึงควรจัดลำดับความสำคัญงานทุกอย่างใหม่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจ เพราะธุรกิจต้องการกระแสเงินสดเพื่อให้อยู่รอด ทั้งนี้ ก็จำเป็นต้องวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเราด้วย
2.Shut Down หยุดไว้ก่อน
เฉพาะโปรเจคที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด ที่ต้องอาศัยเงินทุนสูง ๆ ควรหยุดไว้ก่อน เพราะเราจำเป็นต้องเก็บเงินสดไว้สำหรับช่วงฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้ธุรกิจยังดำเนินต่อไปได้
3.Sell Off ขายเพื่อความอยู่รอด
อะไรที่ไม่ได้สร้างเงิน ไม่ได้ทำให้เกิดรายได้ ให้ขายไปก่อน เพราะเราไม่ทราบเลยว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับคืนมาเมื่อไร การขายบางสิ่งบางอย่างทิ้งไปเพื่อเก็บเงินสดไว้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ แม้จะไม่ได้ทำง่าย ๆ เพราะความผูกพัน แต่บางทีเราก็ไม่ควรเสียเวลา ต้องรู้จักตัดทิ้ง Dead Horse สิ่งที่ไม่จำเป็นแล้วทิ้งไป ควรเรียนรู้จากบริษัทที่ล้มละลาย หรือที่ต้องปิดกิจการ เพื่อให้เราไม่เดินไปสู่ความล้มเหลวตามรอยเขา
4.Digitalize ปรับเปลี่ยนเข้าสู่โหมดดิจิตอล
สำรวจดูให้ถี่ถ้วนรอบด้านว่า มีอะไรในธุรกิจเราบ้างที่ใช้ Digital เข้ามาช่วยได้ ไม่ว่าจะช่วยเพิ่มยอดขาย หรือช่วยลดค่าใช้จ่าย อย่างเช่น การขยายฐานตลาดไปต่างประเทศ ทำเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ สินค้าของเราสามารถขายเพิ่มเติมในช่องทางออนไลน์ได้ไหม เป็นต้น
5.Systemize ปรับระบบการจัดการใหม่
สำรวจดูว่าสามารถนำเอาระบบอะไรเข้ามาช่วยบริหารจัดการในธุรกิจของตัวเองได้บ้าง มีระบบใดที่ช่วยให้เราใช้คนน้อยลง ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น หรือต้องใช้ซอฟต์แวร์ประเภทใดดี ที่จะช่วยลดต้นทุนในการทำงานได้ หรือช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างรายได้ได้มากขึ้น
6.Visualize ปรับสู่โหมดธุรกิจออนไลน์
หากเราทำธุรกิจสัมมนา ก็เปลี่ยนไปทำสัมมนาออนไลน์ได้ ซึ่งก็ยังสามารถทำประโยชน์ให้กับผู้คนได้เหมือนเดิม แม้จะดูไม่ค่อยถนัดในช่วงเริ่มต้น แต่ก็สามารถทำได้ และอาจทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นได้ด้วย
ซึ่งกับธุรกิจอื่น ๆ ก็เช่นกันที่เคยดำเนินกิจการในลักษณะ Offline ก็สามารถปรับประยุกต์สู่โหมดออนไลน์ เน้นให้บริการด้วยการใช้ประโยชน์จากการสื่อสารด้วยภาพและเสียงผ่านช่องทางออนไลน์ให้มากที่สุด เช่น ธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่ต้องให้ลูกค้าเข้าไปดูโครงการเหมือนเก่า แต่ Live สด พาลูกค้าเยี่ยมชมโครงการผ่านออนไลน์ก็ได้
7.Count นับตรวจสอบสถานะเงินสด
ธุรกิจจำเป็นต้องตรวจสอบ Count Balance ให้ชัดเจนอยู่เสมอ ตรวจเช็ค Cash Flow Statement ทุกสัปดาห์ เพื่อให้มี Staying Power ซึ่งก็คือ “เงินสด” ที่จะทำให้เรามีพลังความอดทนเพื่อความอยู่รอดต่อไปได้
8.Collect เรียกเก็บติดตามทวงหนี้
ควรดำเนินการตรวจสอบลูกหนี้ทั้งหมดของเรา เพื่อเพิ่มเงินสะสมให้กับธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็บริหารจัดการให้เหลือหนี้น้อยที่สุดด้วย อะไรที่สามารถชะลอจ่าย หรือ จ่ายเป็นงวด ขยายเวลาการจ่ายได้ ก็ควรดำเนินการเจรจากับคู่ค้า พูดกับเขาดี ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ลูกค้ายอมรับเงื่อนไขและเต็มใจช่วยเหลือเรา
9.Conserve เก็บสะสม
เพราะเราไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาเมื่อไร ในทุกกระบวนการทำงานจึงต้องเก็บสะสมรายได้ เอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อสำหรับใช้ประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้
10.Re-Energize เติมพลังให้ธุรกิจ
ติดต่อให้ความสำคัญกับลูกค้าปัจจุบัน เพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราใส่ใจเขาอย่างเต็มที่ ซึ่งในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ การที่เราเพิ่มคุณค่าให้กับเขา ช่วยเหลือเพิ่มเติม ให้บริการมากขึ้น จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับเรา เหมือนเราเติมพลังให้เขา แล้วเขาก็เติมพลังให้กับเราด้วยการใช้บริการกลับคืน
11.Reactivate ติดต่อลูกค้าเก่า
ฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ถือเป็นขุมทรัพย์สำคัญ ลูกค้าเก่า ๆ ที่บางครั้งขาดการติดต่อไป หรืออาจเคยปฏิเสธเรามาแล้ว หากลองติดต่อกลับไปเพื่อพูดคุย นำเสนอการบริการ เสนอความช่วยเหลือ ก็อาจจะทำให้เราได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นได้
12.Retain รักษาลูกค้าไว้ให้ได้
เพราะเราไม่มีงบประมาณที่จะทำโฆษณาหาลูกค้าใหม่แล้ว จึงควรต้องรักษาลูกค้าเดิมเอาไว้ได้ โดยเราควรเรียกทีมงานมาระดมสมองวางแผนกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้างในการรักษาลูกค้า ตั้ง Timeline ให้ชัดเจนเลยว่าภายใน 30 วันนี้จะทำอะไร อย่างไรบ้าง
หรือในกรณีที่ลูกค้าเกิดเปลี่ยนใจ ไม่ใช้บริการต่อ อาจลองสำรวจความเห็นลูกค้าดูว่าเป็นเพราะสาเหตุใด เพราะบางทีอาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แก้ไขได้ง่าย ๆ เช่น เราอาจจะเพิ่มบริการบางอย่าง หรือ เลื่อนค่าใช้จ่ายออกไปให้กับลูกค้าสัก 30 วัน เพียงเท่านี้ก็อาจเปลี่ยนใจและรักษาลูกค้าเอาไว้ได้
ในการจะรักษาธุรกิจให้อยู่รอดได้ในช่วงโควิดนี้ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ Staying Power หรือ พลังความอยู่รอด ซึ่งจะมีได้มากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจ ความมุ่งมั่น และความร่วมมือกันของทุกคนในทีม
โดยผู้ที่เป็นหัวหน้า เป็นเจ้าของกิจการนั้น จะต้องมี Mind Set ที่ดี มีความเป็นผู้นำ เข้มแข็งและฮึดสู้อย่างเต็มที่ จึงจะนำพาธุรกิจผ่านแลทุกคนในองค์กรพ้นวิกฤตไปได้ ก้าวไปสู่ความสำเร็จที่เป็นเส้นชัยในอนาคตได้อย่างที่หวัง







