ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด เราทุกคนล้วนปรารถนาที่จะเติบโต ก้าวหน้า ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพการงานของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่ทั้งนี้เราก็ต้องพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคนที่ดีขึ้น และเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เพื่อให้คู่ควรกับเป้าหมายที่ฝัน
ซึ่ง “หนังสือ” คือ หนึ่งในเครื่องมือที่ดีและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ที่จะช่วยพัฒนาตัวเราให้กลายเป็นคนที่มีคุณภาพ โดยต่อจากนี้ไป คือ หนังสือแนะนำ 5 เล่มที่คนทำงานควรอ่าน เพื่อให้พาตัวเองก้าวทะยานสู่เส้นชัยได้สำเร็จง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
1.The Top 2%
เป็นหนังสือที่พูดถึง What it takes to reach the top in your profession. อะไรคือสิ่งจำเป็นสำคัญที่เราต้องใช้เพื่อก้าวไปให้ถึงจุดสูงสุดของความสำเร็จในอาชีพที่ต้องการ ซึ่งจะพูดถึงหลักการง่าย ๆ แต่ทรงประสิทธิภาพ 5 ประการ คือ “STARS” โดยมีความหมาย ดังต่อไปนี้
- S Sense of purpose หมายถึง พลังของจุดมุ่งหมาย
- T Trait หมายถึง ลักษณะนิสัย ซึ่งจะบ่งบอกถึงพลัง และความกระตือรือร้นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
- A Attitude หมายถึง ทัศนคติ
- R Rapport with others หมายถึง วิธีการทำงานร่วมกับผู้อื่น การพูดคุยกับคนอื่น ควรทำอย่างไรให้เหมาะสม
- S Skill หมายถึง ทักษะที่สำคัญในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องไม่ใช่แค่รู้ แต่ต้องลงมือทำอย่างรวดเร็วด้วย
The Top 2% เป็นหนังสือที่จะช่วยให้เราค้นพบว่า เราต้องการอะไรในชีวิต พร้อมกับแนะนำวิธีว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะก้าวไปอยู่ในเส้นทางที่จะไปถึงดวงดาวหรือหมู่ดาวที่ฝันไว้ได้สำเร็จ ซึ่งก็เป็นตัวย่อของหลักการในหนังสือเล่มนี้ หรือ STARS นั่นเอง
2.7 Habits of Highly Effective People
คำสำคัญหลัก ๆ 2 คำของหนังสือเล่มนี้ คือ “Habits” และ “Effective” โดยคำว่า “Habits” หมายถึง อุปนิสัย ซึ่งประกอบขึ้นมาจาก 3 ส่วน ได้แก่ ความปรารถนา (Desire), ความรู้ (Knowledge) และ ทักษะ (Skill) อุปนิสัยของคนเรานั้น เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ สร้างได้ และเลิกได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความปรารถนามากแค่ไหน และตั้งเป้าเป็นจุดหมายเอาไว้หรือไม่?
ยกตัวอย่างเช่น เราอยากจะลดน้ำหนัก เราก็ต้องตั้งเป้าการลดน้ำหนักเอาไว้เป็นจุดมุ่งหมาย เป็นความปรารถนาที่อยากจะสวย ผอม หุ่นดี แข็งแรง แล้วจึงค่อยหาความรู้ และฝึกฝนให้มีทักษะ จนใช้ทักษะนั้นเปลี่ยนแปลงตัวเองให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ ซึ่งโดยปกติแล้วคนเราจะใช้เวลาประมาณ 21 วัน ในการเรียนรู้ที่จะสร้างนิสัยใหม่ และเลิกนิสัยเก่า
ส่วน “Effective” หรือ ความมีประสิทธิภาพ คือพื้นฐานของชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะเราจะประสบความสำเร็จได้ก็ด้วยเพราะการลงมือทำที่มีประสิทธิภาพ แต่เราจะทำทุกอย่างได้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยของเราด้วย ดังนั้น เราจึงต้องสร้างนิสัย แล้วให้นิสัยสร้างตัวเรา ซึ่งชีวิตก็เหมือนกับสิ่งซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่เราทำทุกวันจนเป็นนิสัย เมื่อนิสัยเราถูกต้อง เหมาะสม ก็จะประกอบกันจนสร้างเป็นโชคชะตาและความสำเร็จของเราได้ในที่สุด
3.How Did That Happen
หัวใจสำคัญของหนังสือเล่มนี้จะพูดถึง “Holding People Accountable.” วิธีการสร้างให้คนรวมจิตใจ รวมพลังเพื่อที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายสูงสุดในการบริหารคนนั้น ไม่ใช่การทำเพื่อให้คนรัก แต่เป็นเพื่อทำให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการว่า เราต้องทำอย่างไรเพื่อให้ผู้คนมีกำลังใจในการทำงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ โดยจะเจาะลึกเรื่องราวของ Accountability 4 ประเด็นที่สำคัญที่ควรทำให้ได้ เพื่อสร้างความรับผิดชอบมุ่งมั่นของคน ซึ่งประกอบไปด้วย L I F T ที่มีความหมาย ดังนี้
- L Listen หมายถึง การฟัง โดยมุ่งเน้นให้ฟังให้เข้าใจว่าปัญหาคืออะไรบ้าง
- I Identify หมายถึง การแยกแยะ เพื่อระบุให้ได้ชัด ๆ ว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหา
- F Facilitate (Ask questions to solve the problem) หมายถึง การร่วมมือช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งผู้นำที่ดีจะใช้วิธีการถามคำถาม What else we can do? เพื่อกระตุ้นให้เกิดการนำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
- T Taste for movement (what action are you going to take?) หมายถึง การทดสอบว่า เพื่อที่จะมุ่งไปข้างหน้าให้ได้ตามเป้าที่ต้องการนั้น เราต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง
Accountability คือความรับผิดชอบ ความมุ่งมั่น และความผูกพันที่มีต่องาน เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้ตามที่ต้องการ ดังนั้น How did that happen เล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่ทุกคนทำงานไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระดับหัวหน้างานที่ต้องบริหารทีมให้ทำงานได้บรรลุตามเป้าหมาย
4.The Power
ในการจะก้าวไปสู่ความสำเร็จให้ได้นั้น เราจะพึ่งเพียงแค่พลังของตัวเราเองอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องรู้จักพึ่งพาพลังของจักรวาลให้ช่วยทุ่นแรงช่วยเหลือเราด้วย หากรอบตัวเรามี Internet ที่ทำให้ผู้คนติดต่อสื่อสารกันได้ รอบตัวเราก็มีพลังจักรวาล พลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายรายล้อมอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจำเป็นจะต้องดึงพลังในส่วนนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
โดยหนังสือเรื่อง The Power เล่มนี้จะพาเราทุกไปค้นพบวิธีการดึงเอาพลังจักรวาลที่อยู่รอบตัวมาใช้ เพื่อพาให้เราก้าวเดินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงเส้นชัย ซึ่งเมื่อเราเริ่มเข้าใจวิธีการทำงานของชีวิต และพลังอำนาจที่มีอยู่ในตัว เราก็จะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของชีวิตอย่างเต็มที่ แล้วชีวิตเราก็จะกลายเป็นชีวิตที่น่าอัศจรรย์
5.Strengths Finder
เป็นหนังสือที่พูดถึงการมองหาจุดแข็งในตัวเองให้เจอ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการจะประสบความสำเร็จในการทำงาน เพราะ การเสริมจุดแข็งง่ายกกว่าการพัฒนาจุดอ่อน แต่ทั้งนี้ เราก็ต้องหาจุดแข็งของเราให้เจอด้วย Who we are? เราเก่งเรื่องอะไร และ Who we aren’t? เราไม่เก่งเรื่องอะไร หนังสือเล่มนี้จะพาเราไปค้นหาคำตอบให้ชัดเจน
เพราะบ่อยครั้งเรามักมัวแต่เสียเวลาไปกับความอยากเป็นเหมือนคนอื่น โดยที่ไม่รู้เลยว่าการเป็นแบบนั้นไม่ใช่เรา และเรามีจุดเด่นจุดแข็งในตัวเองที่น่าสนใจ และควรอย่างยิ่งที่จะพัฒนามากกว่า เพื่อใช้จุดแข็งนั้นพาเราไปสู่จุดหมายที่ฝันได้สำเร็จ
การพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องทำหากปราถนาจะประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งแนวทางในการพัฒนาตัวเองนั้นมีมากมาย แต่หนึ่งวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ “การอ่านหนังสือ” ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมประสบการณ์หลากหลายของผู้คนที่ทั้งสำเร็จและล้มเหลวเอาไว้ ทำให้เราได้เรียนรู้โลกกว้างภายในระยะเวลาอันสั้น
โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง นั่นเองจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมเราจึงควรอ่านหนังสือเป็นประจำ ยิ่งสำหรับชีวิตการทำงานที่ต้องการความสำเร็จด้วยแล้ว หนังสือยิ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในการช่วยเราให้ไปถึงฝั่งฝันได้ดีมาก ๆ







